โรคด่างขาว ( Vitiligo)

โรคด่างขาว ( Vitiligo)

                สาเหตุหลักๆของโรคมี 3 สาเหตุคือ

1.       เกิดจากการเซลล์เมลาโนไซต์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่ในการสร้างเม็ดสีที่ผิวหนังได้หยุดทำงานลง ทำให้ในบริเวณนั้นไม่มีเซลล์สร้างเม็ดสี จึงปรากฏเป็นรอยด่างขาวขึ้น

2.       สารเคมีที่ระบบประสาทส่วนปลายสร้างและปล่อยออกมาแล้วเกิดไปทำลายเซลล์เมลาโนไซต์ ทำให้สร้างเม็ดสีไม่ได้

3.       เกิดจากการสร้างภูมิคุ้มกันมาทำลายเม็ดสีที่ร่างกายสร้างขึ้น มักพบร่วมกับโรคทางระบบต่อมไร้ท่อ เช่น โรคไทรอยด์ โรคเบาหวาน โรคโลหิตจาง เป็นต้น

                และปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดโรคด่างขาวขึ้นได้ ก็คือ การมีประวัติว่าผิวหนังเคยได้รับการบาดเจ็บมาก่อนเช่น จากรอยบาด ขีดข่วน ไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวกเป็นต้น อุบัติการณ์ของโรคอยู่ที่ร้อยละ 1 ของประชากร เกิดขึ้นได้กับทั้งชายและหญิงในอัตราเท่าๆกัน  อย่างไรก็ตามโรคด่างขาวเป็นโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ ในโรคด่างขาวเรามักจะเห็นดวงขาวๆชัดเจน เมื่อเวลาผ่านไปขอบจะเข้มขึ้น หรืออาจเป็นรอยแดงๆ เกิดขึ้นได้หากมีการอักเสบเข้ามาร่วมด้วย โดยจะเกิดอาการคันและขอบของผื่นมีสีแดง

                การรักษาในต่างประเทศมักทำกันอยู่ 2 แนวทางคือ

1.       พยายามทำให้เซลสร้างเม็ดสีในบริเวณที่เป็นสีด่างขาวกลับมาทำงานเป็นปกติได้แก่

·        รักษาโดยการใช้ยา โดยใช้ยาจำพวกคอร์ติโคสเตอรอยด์ เช่น กลุ่ม Steroids, กลุ่ม Psoralen ซึ่งต้องใช้ร่วมกับการฉายแสง UV ร่วมด้วย, กลุ่ม Calciportiol, กลุ่ม Immunomodulators

·        การฉายแสง UVB ทำการรักษาต่อเนื่องสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นเวลาติดต่อกัน 1-2 ปี           

·        ตากแดดบ่อยๆร่วมด้วย เพื่อการกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซต์ให้ผลิตเม็ดสีออกมาได้

·        การปลูกถ่ายเซลล์เม็ดสี เป็นการปลูกถ่ายเซลล์เมลานินนั่นเอง การรักษานี้ให้ผลดีในกรณีที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่น

2.       การทำลายเซลสร้างเม็ดสีของผิวหนังปกติ เพื่อให้ไม่เห็นเป็นรอยด่างขึ้นมาเมื่อรอยด่างขาวที่เกิดขึ้นมีบริเวณมากกว่า 50% ของพื้นผิวร่างกายแต่การรักษาด้วยวิธีนี้จะทำให้ผิวหนังไหม้ได้ง่ายและเกิดมะเร็งของผิวหนังได้หากมีการดูแลที่ไม่ดีพอ ทำให้ผู้ที่รักษาโรคด่างขาวด้วยวิธีนี้ต้องเลี่ยงแสงแดดอยู่เสมอ

ข้อมูลเพิ่มเติม ด่างขาว http://vitiligo.lnwshop.com/

st:wp,bg,bs