โรคด่างขาวและการรักษา

โรคด่างขาวเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการเซลล์เมลาโนไซต์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่ในการสร้างเม็ดสีที่ผิวหนังได้หยุดทำงาน ทำให้ผิวหนังบริเวณที่เซลล์มีปัญหานั้นมีลักษณะเป็นด่างขาวได้ อาการของโรคมักเริ่มจาเริ่มจากการมีผื่นราบ รูปร่างกลมหรือรี สีขาวขนาดตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรจนถึงหลายเซนติเมตร อาจจะมีอาการคัน และจะมีขอบสีแดงหากมีการอักเสบด้วย มักว่าการรักษาจะใช้เวลานานแต่ก็จัดว่าเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้

                 วิธีการรักษาโรคด่างขาวในทางการแพทย์ก็จะรักษาตามกลไกและสาเหตุของการเกิดโรค ดังนี้

·        รักษาโดยการใช้ยา โดยใช้ยาจำพวกคอร์ติโคสเตอรอยด์ เช่น กลุ่ม Steroids, กลุ่ม Psoralen ซึ่งต้องใช้ร่วมกับการฉายแสง UV ร่วมด้วย, กลุ่ม Calciportiol, กลุ่ม Immunomodulators

·        การรับประทานยา ใช้ยาจำพวกคอร์ทิโคสเตอรอยด์ส เช่น กลุ่ม Steroid, กลุ่ม Psoralen ซึ่งต้องใช้ร่วมกับการฉายแสง UV ร่วมด้วยจึงจะได้ผลดี

·        การฉายแสง UVB เพื่อช่วยกระตุ้นให้เซลล์สร้างสีในผิวหนังทำงานได้ตามปกติ แต่จะต้องทำการรักษาต่อเนื่องสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นเวลาติดต่อกัน 1-2 ปี     

·        การปลูกถ่ายเซลล์เม็ดสี (Autologous Melanocytes Transplantation) เป็นการปลูกถ่ายเซลล์เมลานินนั่นเอง การรักษานี้ให้ผลดีในกรณีที่ทำในบริเวณรอยด่างขาวที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่น

·        ตากแดดบ่อยๆร่วมด้วย เพื่อการกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซต์ให้ผลิตเม็ดสีออกมาได้

                โดยการรักษาที่พบได้บ่อยคือ การใช้ยา Psoralen ซึ่งการบริหารยามีทั้งรูปแบบยาทาและยากิน ถ้าปรากฏจุดสีดำเกิดขึ้นบริเวณที่ด่างขาวแสดงว่าการรักษาได้ผล โดยจุดสีดำมักเกิดขึ้นบริเวณรอบรูขุมขนก่อน  

                โดยทั่วไปมักมีการใช้ใช้เครื่องสำอางเพื่อปกปิดรอยด่างขาวซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นมากกว่าการรักษาให้หายขาด และนอกจากนี้ในปัจจุบันยังพบการใช้สมุนไพรพื้นบ้านอย่างพริกไทยมาใช้ในการรักษาโรคด่างขาวอีกด้วย เนื่องสารตัวหนึ่งในพริกไทยที่ชื่อว่า piperine ซึ่งจากการทดลองในหนูพบว่าสารตัวนี้สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีได้ดีขึ้นนั่นเอง

ข้อมูลเพิ่มเติม ด่างขาว http://vitiligo.lnwshop.com/

st:wp,bg,bs